เที่ยวเชียงราย แสนโรแมนติก

ชื่อเดิมคือ ไร่บุญรอด มีพื้นที่ครอบคลุมถึง 4 ตำบล มีพื้นที่กว้างกว่า 8,000 ไร่ ที่นี้มีแทร็คจักรยานแบบมาตรฐาน และสวยที่สุดในเอเชีย สำหรับเซียนจักรยาน แวะชมมะเฟืองยักษ์ ฯลฯ ช่วงที่น่าเที่ยวที่สุดคือช่วง พ.ย.-ก.พ. อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้่าสวยเหมาะกับการถ่ายรูปสวยๆ จากนั้นจะได้ลิ้มลอง ชาอู่หลง ให้ชื่นใจ

2.สวนแม่ฟ้าหลวง

มีพื้นที่ทั้งหมด 25 ไร่ประมาณ13ไร่จากทั้งหมดถูกสร้างเป็นสวนหิน สวนน้ำ สวนปาล์ม และไม้ประดับ ส่วนที่เหลือเป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว ซึ่งในแต่ฤดูจะออกดอกไม้มาจะแตกต่างกัน มีดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกซัลเวีย พิทูเนีย บีโกเนีย กุหลาบ ดอกลำโพง ไม้มงคลต่างๆ ยังมีไม้เลื้อยและไม้ยืนต้นประมาณ 70ชนิด

3.ไร่ชาฉุยฟง

สืบทอดการปลูกชาตั้งแต่รุ่นพ่อสู่รุ่นลูก และพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมกันแพร่หลาย ลักษณะเป็นภูเขาต้นชาเขียวขจีในพื้นที่ขนาด 1000 ไร่ ขับรถขึ้นไปได้ ไม่ลำบาก สะดวกต่อการเดินทาง มีร้านอาหารและเครื่องดื่มเมนูต่างๆ จากใบชาสด หรือซื้อเป็นของฝาก ไว้คอยบริการ ทานเมนูทานเล่นพร้อมกับดูวิวสวยๆ ไปด้วย อิ่มท้อง อิ่มตา พร้อมกันเลยทีเดียว

4.สบรวก (สามเหลี่ยมทองคำ)

ในปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มักนิยมถ่ายรูปคู่กับซุ้มประตูสามเหลี่ยมทองคำ นมัสการพระพุทธรูนวล้านตื้อ ที่นี่ยังมีบริการเรือให้เช่าเพื่อเดินทางไปชมทิวทัศน์บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ใช้เวลา 20 นาที และยังสามารถเช่าเรือจากสบรวกไปยังเชียงแสนและเชียงของได้

5.ภูชี้ฟ้า

เป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่ง มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า บนยอดภูชี้ฟ้าเป็นทุ่งหญ้ากว้างถึง 1 ตรกม. โดยมีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว มองเห็นหมู่บ้านลาวที่เรียกว่า เชียงตอง ยามเช้าในฤดูหนาวจะมีทะเลหมอกและอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงที่ดอกเสี้ยวหรือดอกชงโคป่าบานสะพรั่งอยู่ทั่วไปบริเวณภูชี้ฟ้า

6.ไร่ชาดอยวาวี

บนดอยวาวี นอกจากจะมีชาให้ชิมให้ช้อป แล้ว ยังมีชาให้ชมด้วย ซึ่งนอกจาก ไร่ชา ที่ชาวบ้านปลูกเรียงราย ลดหลั่นไปตามไหล่เขาแล้ว ดอยวาวียังมีต้น "ชาพันปี" ที่บ้านใหม่พัฒนา เป็นหนึ่ง ในจุดสนใจทางการท่องเที่ยว ชาพันปีต้นนี้ วัดเส้นรอบวงบริเวณโคนต้นได้ 150 เซนติเมตร สูงถึง 20 เมตร เป็นชา สายพันธุ์อัสสัม ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ บนดอยวาวีมาช้านานแล้ว ชาวบ้านนิยมนำใบมาทำ "เมี่ยง" กินให้ความ กระชุ่มกระชวย

7.ดอยแม่สลอง

เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย อดีตเป็นชุมชนของชาวจีนยูนนาน(จีนฮ่อ) มีพื้นที่ที่มีการปลูกชาที่ดีที่สุดของประเทศและมีซากุระหรือนางพญาเสือโคร่งมีดอกช่วงช่วงต้นเดือนมกราคม - ปลายเดือนมีนาคม

8.สถูปดอยช้างมูบ

ในปัจจุบันคงเหลือเพียงพระสถูปช้างมูบเป็นเจดีย์ขนาดเล็กตั้งอยู่บนก้อนหินใหญ่ ซึ่งมีลักษณะเหมือนช้างหมอบอยู่ สภาพโดยเป็นต้นโพธิ์ใหญ่ และต้นสนซึ่งใช้ปลูกเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำ

9.อุทยานแห่งชาติขุนแจ

มีสภาพพื้นที่อุทยานแห่งชาติขุนแจเป็นภูเขาสูงและที่ราบสลับเนินเขา โดยสถานที่ที่สูงที่สุดในอุทยานคือดอยลังกาหลวงอีกทั้งยังเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำลาวที่ไหลลงสู่แม่น้ำกกอีกด้วย ในอุทยานส่วนใหญ่เป็นหุบเหว ประกอบด้วยหิน 2 ชนิด คือ หินอัคนีและหินตะกอน พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นหินแกรนิตซึ่งเป็นหินที่พบเห็นได้ทั่วไปตามภาคเหนือของไทย หินภูเขาไฟสามารถพบในโซนทางตะวันออกของอุทยานแห่งชาติ ส่วนหินตะกอน หินทราย และหินเชล ที่เกิดจากการทับถมของตะกอนในแม่น้ำเวลานานเข้า จึงเกิดเป็นชั้นหินทรายที่พบในอุทยานแห่งชาติขุนแจ เป็นเม็ดทรายขนาดเล็กสีเทาทับถมเป็นชั้นๆ หินเชลมีสีเป็นสีเนื้ออ่อนและง่ายต่อการแตกหัก